ผมขออนุญาตหยิบเธอมานินทาเอ้ย มาเล่าสู่กันฟังอย่างไม่เป็นทางการนะครับ เหตุผลก็คือผมประทับใจอินทผลัมพันธุ์นี้ตรงที่ รูปกายภายนอกเธอนอกจากจะมองไม่น่าพิศมัยแล้ว สัมผัสของเธอก็สุดแสนหยาบกระด้างเสียนี้กระไร จนเธอไม่เคยอยู่ในสายตาผมเลยทีเดียวทุกครั้งที่แวะเวียนย่างกรายผ่านแผงขายอินทผลัมในตลาด แต่ตอนนั้นความรู้สึกผมเองกับอินทผลัมพันธุ์นี้ก็เฉยๆนะ จนต้องมาสะดุดใจและเริ่มเปิดใจรับเธอเข้ามา หลังจากที่เจ้าของร้านคะยั้นคะยอให้ผมชิมมันเสียทุกพันธุ์ที่มีวางขาย เจ้าประจำผมเป็นอาระบิกแก่ๆยิ้มเก่งๆและแสนใจดีชวนให้ชิมโน้นชิมนี่ไปทั่วจนผมแทบจุก และแล้วก็ถึงตาเธอจินตนาการสีหน้าขณะผมชิมออกไหมครับ อารมณ์เหมือนกัดก้อนน้ำอ้อยยังไงยังงั้นเลยครับ ถ้าเคยได้เห็นหรือได้ชิมก้อนน้ำอ้อยของคนอีสานนั้นละครับกลิ่นหอมหวานขณะอยู่ในปาก รสชาติที่หวานละมุน ทำให้ลืมภาพที่มองด้วยตาไปเลยทีเดียวครับ แต่ที่น่าสงสารเธอกว่านั้นพอผมนำกลับมาเมืองไทย ก็ไหว้วานเพื่อนสนิทช่วยถ่ายภาพลงเวบให้ครับ ขอบคุณ ตากล้อง จอย มานะที่นี้ด้วยครับ แหม แต่ตากล้องผมนะครับบอกไม่ชอบอินทผลัมแต่พอถ่ายๆไปทำไมเคี้ยวตุ้ยๆคำโตเชียว สารภาพกับผมเองครับว่าหลงเสน่ห์ผลไม้จากแดนทะเลทรายเข้าให้แล้ว มาดูว่าเขาพูดถึง โซการี ไว้ว่าอย่างไรบ้าง "เจ พันธุ์นี้ทำไมมันเหมือนศพอย่างนี้"ทำให้ผมนึกถึง สภาพศพมัมมี่ ที่แห้งๆมีแต่หนังหุ้มกระดูกขึ้นมาเลยครับ แต่อย่างไรก็ตามผมให้ฉายาเธอว่า "เจ้าเงาะ"มีแต่รจนาเท่านั้นจะรู้ว่าภายใต้น่าตาอันอัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวนั้น ได้ซ่อน รูปกายสีทองงดงามเอาไว้ข้างใน
ความคิดเห็น